120 ปี กรมชลประทาน รุกเดินหน้าสู่องค์กรอัจฉริยะ มุ่งสร้างความมั่นคงด้านน้ำและการบริการคุณภาพส่งถึงประชาชน

120 ปี กรมชลประทาน รุกเดินหน้าสู่องค์กรอัจฉริยะ

มุ่งสร้างความมั่นคงด้านน้ำและการบริการคุณภาพส่งถึงประชาชน

ฉลองครบรอบ 120 ปี กรมชลประทาน โชว์ศักยภาพขับเคลื่อนสู่เป้าหมายองค์กรอัจฉริยะ มุ่งสร้างความมั่นคงด้านน้ำ แสดงผลงานและนวัตกรรมงานชลประทานผ่านนิทรรศการยิ่งใหญ่ นำเทคโนโลยีเสมือนจริง โชว์ความมหัศจรรย์แห่งสายน้ำเพื่อชีวิต (The Miracle of Water for Life) ที่เรียกได้ว่าเหนือความคาดหมาย พร้อมจัดกิจกรรมงานวันคล้ายวันสถาปนากรมชลประทาน ‘120 ปี กรมชลประทาน 6 รัชกาล งานของแผ่นดิน’ ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 13-15 มิถุนายน 2565 โดยได้รับเกียรติจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมรับชมนิทรรศการทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 120 ปี แห่งการกำเนิดและวิวัฒนาการงานชลประทานในประเทศไทย นับแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ผู้ก่อตั้งกรมคลอง เปลี่ยนเป็นกรมทดน้ำในรัชกาลที่ 6 และเป็นกรมชลประทานในรัชกาลที่ 7 การพัฒนางานชลประทานในประเทศไทยได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงรัชกาลที่ 9 ที่งานด้านการชลประทานได้รับการพัฒนาอย่างกว้างขวางครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทานพิจารณาศึกษาและก่อสร้าง โครงการชลประทานประเภทและขนาดต่าง ๆ ตามความเหมาะสมของสภาพภูมิประเทศ และภูมิสังคม รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในการอุปโภคบริโภค การเกษตร และกิจกรรมอื่นๆ มีโครงการชลประทานอันเนื่องมาจากพระราชดำริในทุกพื้นที่มากกว่า 2,000  โครงการ  

 “ตลอดระยะเวลา 120 ปีที่ผ่านมา กรมชลประทาน ได้พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อสนับสนุนการใช้น้ำในทุกภาคส่วนกระจายอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ รวม 21,463 แห่ง คิดเป็นปริมาณน้ำรวมประมาณ 83,101 ล้านลูกบาศก์เมตร พัฒนาพื้นที่ชลประทานไปแล้วกว่า 35.04 ล้านไร่ โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่ชลประทานให้ได้กว่า 51.08 ล้านไร่ เพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้ประมาณ 94,961 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปี 2580 หวังสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น” นายประพิศฯ กล่าว

ในโอกาสครบรอบ 120 ปี กรมชลประทาน ได้จัดงาน “120 ปี กรมชลประทาน 6 รัชกาล งานของแผ่นดิน” ระหว่างวันที่ 13 – 15 มิถุนายน 2565 โดยจัดแสดงนิทรรศการผลงานชลประทานทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ ประกอบด้วยการจัดนิทรรศการ On ground รวม 76 จังหวัดทั่วประเทศ มีนิทรรศการด้านการชลประทาน กิจกรรมเสวนาและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับเครือข่ายชลประทานทุกภูมิภาครวม 67 หัวข้อ โดยวิทยากรระดับจังหวัด อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัด และเกษตรกรกลุ่มผู้ใช้น้ำ เป็นต้น รวมถึงกิจกรรม “รักษ์น้ำ ปลูกป่า” ร่วมกันปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวทั่วประเทศ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมป่าไม้ จำนวน 22,930 ต้น สำหรับที่ส่วนกลาง จัดเวทีเสวนาโดยวิทยากรมากประสบการณ์จากสายงานต่าง ๆ แจกกล้าไม้ อาทิ ยางนา สัก พะยุง รวม 3,350 ต้น ให้ผู้ลงทะเบียนร่วมงาน และมีร้านจำหน่ายผลผลิตและสินค้าแปรรูปจากเกษตรกรในพื้นที่ชลประทานอีกด้วย 

นอกจากนี้ กรมชลประทานจัดนิทรรศการเสมือนจริงต่อเนื่องเป็นปีที่สาม โดยครั้งนี้จะได้สัมผัสเรื่องราวความมหัศจรรย์แห่งสายน้ำเพื่อชีวิต “The miracle of water for life” ในรูปแบบนิทรรศการเสมือนจริง
3 มิติ การเดินทางของสายน้ำตลอด 120 ปี ผู้เข้าชมจะได้รับความสนุกและตื่นเต้นไปกับการสร้างตัวละครอวาตารเพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการ “พลังแห่งชลประทาน ความเป็นหนึ่งเพื่อทุกคน (One for All)” กับผลงานของ 38 หน่วยงานในสังกัด และกิจกรรมพร้อมลุ้นรับของรางวัลมากมายตลอดการจัดงาน 

ทั้งนี้ ขอเชิญชวนร่วมชมนิทรรศการเนื่องในโอกาสครบรอบ 120 ปี กรมชลประทาน พร้อมกิจกรรมเสวนาและแจกของรางวัลมากมายจากส่วนภูมิภาค 76 จังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 13 -15 มิถุนายน 2565 และร่วมสัมผัสเรื่องราวความมหัศจรรย์แห่งสายน้ำเพื่อชีวิต “The miracle of water for life”  ในรูปแบบนิทรรศการเสมือนจริง ตลอดจนร่วมบริจาคให้กับศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน ผ่านทางเว็บไซต์ 120 ปี กรมชลประทาน ได้ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป

กรมชลประทาน ร่วมเฉลิมพระเกียรติ “พระราชชนนีพันปีหลวง” ในงาน สีสรรพรรณไม้ ครั้งที่ 14

กรมชลประทาน ร่วมเฉลิมพระเกียรติ 

“พระราชชนนีพันปีหลวง” ในงาน สีสรรพรรณไม้ ครั้งที่ 14

กรมชลประทาน และหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมจัดงาน “สีสรรพรรณไม้  เทิดไท้บรมราชินีนาถ 30 ปี สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ใต้ร่มพระบารมี เพื่อปวงประชา” เมื่อวันที่ 10 – 15 สิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2565 ณ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีฝ่ายบริหาร กรมชลประทาน เปิดเผยว่า สำหรับปีนี้ทาง กรมชลประทาน ได้ร่วมจัดกิจกรรมและนิทรรศการด้านการบริหารทรัพยากรน้ำ ดิน และการปฏิรูปที่ดิน ภายใต้แนวคิด “แม่ของแผ่นดิน” เพื่อเผยแพร่งานพระราชดำริต่างๆ โดยจัดแสดงโมเดลจำลองแนวพระราชดำริ เรื่อง “ต้นทางเป็นป่าไม้ ปลายทางเป็นประมง ระหว่างทางเป็นเกษตรกรรม” จากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกันนี้ยังมีการ สาธิตการแปรรูปผลิตภัณฑ์ พร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์ชาสมุนไพร ผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบ ผลิตภัณฑ์กระเทียมโทนดอง สบู่นมแพะ แชมพู ครีมนวดผมมะกรูด และผลิตภัณฑ์ข้าว เป็นต้น

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ การจัดแสดงนวัตกรรมจากผลผลิตทางการเกษตร การจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากโครงการพระราชดำริ และเกษตรกรจากทั่วประเทศ การแสดงพันธุ์ไม้หายาก การแสดงดนตรีในสวน การประกวดพันธุ์ไม้ การประกวดปลากัด การประมูลพันธุ์ไม้ อีกทั้งการแจกต้นไม้ฟรีให้นำกลับไปปลูกที่บ้าน อีกด้วย

โดยงานนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ร่วมกับมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จัดกิจกรรมดังกล่าว โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ร่วมจัดแสดงนิทรรศการ จำนวน 11 หน่วยงาน ได้แก่ กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมการเกษตร กรมการข้าว กรมประมง กรมหม่อนไหม สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และกรมปศุสัตว์ ภายใต้แนวคิด “สืบสานพระราชปณิธาน เฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” เพื่อเผยแพร่งานพระราชดำริ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ร่วมดำเนินการ รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมชมงาน ตลอดจนได้น้อมนำแนวพระราชดำริมาใช้ในชีวิตประจำวัน 

สำหรับใครที่พลาดงานในปีนี้ พบกันใหม่ปีหน้า กับกิจกรรม นิทรรศการดดีๆ ที่จะจัดขึ้นเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง พร้อมทั้งส่งเสริมการประกอบอาชีพในด้านต่างๆ ของคนไทยทั่วประเทศ

กรมการพัฒนาชุมชน จับมือ ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ เตรียมผลักดัน โครงการ Craft Creator Awards เฟ้นหาสุดยอดนักเล่าเรื่องชุมชนชิงเงินรางวัลกว่า 1.5 ล้าน

เสร็จสิ้นไปแล้ว กับพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การบูรณาการขับเคลื่อนชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ผ่านโครงการ Craft Creator Awards เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน 2562 ระหว่าง กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย (พช.) และบริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด ณ ห้องประชุม 3003 ชั้น 3 กรมการพัฒนาชุมชน อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ โดยมี นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และนายอนันต์ ลือประดิษฐ์ บรรณาธิการอำนวยการและผู้อำนวยการสายงานธุรกิจสื่อและสร้างสรรค์คอนเทนต์ บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ

 

โครงการ Craft Creator Awards ที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นการจัดประกวดภาพยนตร์สารคดีสั้น เพื่อค้นหาสุดยอดนักเล่าเรื่อง ที่สามารถนำเสนออัตลักษณ์ของชุมชน ผ่านมุมมองที่มีความน่าสนใจ และประชาชนทั่วไปอาจยังไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นอัตลักษณ์ด้านสถานที่ท่องเที่ยว ประเพณี วัฒนธรรม อาหาร และร้านค้าในชุมชน โดยถ่ายทอดผ่านรูปแบบคลิปวิดีโอความยาวไม่เกิน 3 นาที เพื่อชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1,500,000 บาท

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้แก่นักศึกษา บุคคลทั่วไป และนักผลิตสื่อยุคใหม่ ได้เพิ่มพูนทักษะด้านการนำเสนอ (Presentation) ผ่านการคิดวิเคราะห์ และออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ รวมถึงเป็นกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่วิถีชีวิต อัตลักษณ์ และวัฒนธรรมเฉพาะของท้องถิ่น ไปสู่สายตาชาวโลก ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างการรับรู้ และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอัตลักษณ์ชุมชน เพื่อต่อยอดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้งการผลิต การบริโภค และการท่องเที่ยวในชุมชนอย่างยั่งยืน

 

 

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับกฎกติกาการส่งผลงานเข้าร่วมประกวด จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกันในเร็วๆ นี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการเพิ่มเติมได้ที่ https://craftnroll.net/ หรือ Facebook : https://www.facebook.com/craftnrollthailand/

ครีเอทฯฮึดสู้ปรับโครงสร้างรับลูกค้ายุคดิจิทัล

ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์” ทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาท ปรับโครงสร้างแตกไลน์แบรนด์ย่อย 4 กลุ่มธุรกิจหวังเพิ่มโอกาสรับลูกค้าใหม่ในยุคดิจิทัล พร้อมจับมือโปรโมเตอร์รุกโชว์บิซจัดงาน Music Festival ระดับอินเตอร์ปลายปี

นายญาณกร อภิราชกมล กรรมการบริหาร บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด หรือ CI เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันบริษัทได้แตกไลน์ธุรกิจย่อยออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.CID โซลูชันที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคมิติต่างๆในปัจจุบัน 2.CIM การสร้างเนื้อหาคอนเทนต์สู่แพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ 3.CIO ดูแลและจัดกิจกรรม อีเวนต์ โชว์บิซต่างๆ และ 4.CIS การพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด โดยบริษัทใช้งบประมาณการปรับเปลี่ยนโครงสร้างที่ผ่านมาบริษัทวางไว้อยู่ที่ 200 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มมีรายได้เข้ามาในสิ้นปีนี้บางส่วน

ญาณกร อภิราชกมล

ญาณกร อภิราชกมล

“ปัจจุบันโลกมีการปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วรวมทั้งดิจิทัลเริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อธุรกิจและผู้บริโภคมากขึ้น ดังนั้นกลุ่มแบรนด์และองค์กรต่างๆ จำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมาบริษัทพบว่ายังมีแบรนด์จำนวนมากที่ยังไม่สามารถหากลุ่มลูกค้าของตัวเองได้ชัดเจน ดังนั้นการแตกไลน์บริษัทของครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ครั้งนี้จะเข้ามาช่วยงานของลูกค้าต่างๆ ให้ค้นหากลุ่มเป้าหมายและวางแผนการตลาดได้ง่ายขึ้นรวมทั้งสร้างภาพบริษัทให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านงานความคิดสร้างสรรค์มุมต่างๆ ได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงของบริษัทด้วย”

นอกจากนี้การแตกไลน์ธุรกิจครั้งนี้บริษัทยังมองว่าเป็นโอกาสที่ดี เนื่องจากที่ผ่านมาจะเริ่มองค์กรต่างๆ ทั้งในมุมของภาครัฐ และเอกชน เริ่มหันมาสู่การทำงานที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งสาเหตุมาจากที่ผู้บริโภคเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์มากขึ้น ประกอบกับที่ผ่านมาบริษัทมีกลุ่มลูกค้าทั้งในองค์กรภาครัฐ และเอกชนจำนวนมาก ดัง นั้นการปรับโครงสร้างของบริษัทครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทมีโอกาสในการรับงานที่หลากหลาย และมีจำนวนลูกค้ามากขึ้นทั้งในกลุ่มลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่ รวมทั้งเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญด้าน O2O เต็มตัว ไม่ว่าจะเป็น ออฟไลน์สู่ออนไลน์ หรือออนไลน์สู่ออน กราวด์ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้มีรายรับเข้ามามากขึ้น

ขณะที่ในด้านของกิจกรรมต่างๆ หรือโชว์บิซบริษัทยังคงให้ความสำคัญเช่นเดิม โดยปีนี้บริษัทวางงบเฉพาะการจัดโชว์บิซรวมไม่ตํ่ากว่า 100 ล้านบาท พร้อมทั้งคาดว่าจะมีรายรับกว่า 150 ล้านบาทเข้ามา นอกจากนี้บริษัทจะมีการรีแบรนด์คอนเสิร์ตต่างๆ ให้มีภาพของความสุขชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยงานคอนเสิร์ต Season Of Love Song ปีนี้จะมีการปรับพื้นที่ พร้อมเพิ่มกิจกรรมต่างๆ ในงานมากขึ้น รวมทั้งปรับผังคอนเสิร์ตให้เหมาะสม อีกทั้งในปีนี้บริษัทยังวางแผนจับมือกับโปรโมเตอร์ดังร่วมจัดคอนเสิร์ตต่างประเทศ โดยเป็นลักษณะงานโชว์บิซ Music Festival ซึ่งจะได้เห็นคอนเสิร์ตดังกล่าวในช่วงปลายปีนี้

สำหรับในภาพรวมของรายได้รวมปีนี้บริษัทคาดว่าจะเริ่มกลับมาทำกำไร เนื่องจากที่ผ่านมาเริ่มสังเกตเห็นธุรกิจในหลายกลุ่มหลังจากที่จัดตั้งขึ้นเริ่มไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ CIM ได้รับผลการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าและเชื่อว่าปีนี้ในกลุ่มธุรกิจ CIM จะสามารถทำรายได้มากกว่า 30 ล้านบาท หลังจากในปีก่อนที่ผลประกอบการโดยรวมของครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ ขาดทุนเกือบ 20 ล้านบาท เนื่องจากมีการลงทุนในเรื่องของอุปกรณ์ บุคลากร อื่นๆ สำหรับการปรับโครงสร้างไป

ที่มา : หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3471 ระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2562

CI เปิดแนวโน้มธุรกิจคอนเสิร์ต ปี 2019 ผู้จัดปรับแทคติครับพฤติกรรมผู้บริโภค

ภาพรวมตลาดไม่โตขึ้นมากนัก ผู้จัดเน้นลดสเกลงาน เพิ่มความถี่ สร้างสรรค์งานที่หลากหลาย สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความต้องการแบบเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น

                  นายญาณกร อภิราชกมล กรรมการบริหารบริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด หรือซีไอ (CI) ผู้จัดงานคอนเสิร์ต อีเวนต์เอาต์ดอร์ เฟสติวัล และ Holistic marketing agency เปิดเผยกับ “หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ” ถึงภาพรวมของตลาดคอนเสิร์ตที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ความถี่ของการจัดงานเพิ่มขึ้น เพราะผู้จัดส่วนใหญ่ลดขนาดของงานลง เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้ชมงานที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่งประเภทของคอนเสิร์ตตอนนี้ก็หลากหลายขึ้น ทั้งคอนเสิร์ตไทยขนาดเล็กๆ แฟนมีตของศิลปินเกาหลีก็เริ่มกลับมาชุกมากขึ้น ตลอดจนกระแสคอนเสิร์ตอีดีเอ็ม หรือแม้แต่คอนเสิร์ตไทยยุค 90

                  “ตลาดคอนเสิร์ตอาจจะไม่ได้ใหญ่ขึ้นอย่างมีนัย แต่ปริมาณมากขึ้น จากความถี่ในการจัด แต่งานมีขนาดเล็กลง ด้วยพฤติกรรมผู้ชมและโครงสร้างของรายได้จากธุรกิจคอนเสิร์ตที่เปลี่ยนไป ผู้จัดแต่ละรายก็ต้องรักษาพื้นที่ของตัวเอง โดยโฟกัสที่รายได้จากการขายบัตร ทำให้คอนเสิร์ตเล็กลง ความเสี่ยงน้อยลงด้วย”

                  นายญาณกร อภิราชกมล กรรมการบริหาร Create Intelligence Co.,Ltd. กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ด้วยแนวโน้มที่เกิดขึ้นก็ทำให้มีผู้จัดรายเล็กๆ เพิ่มขึ้น เพราะการจัดงานเล็กๆ การลงทุนไม่สูง ขณะเดียวกันคู่แข่งในตลาดนี้ก็หลากหลายขึ้น แบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ แบรนด์สินค้าที่เดิมเคยเป็นสปอนเซอร์ให้แก่คอนเสิร์ตต่างๆ ก็หันมาจ้างโปรโมเตอร์จัดคอนเสิร์ตโดยใช้ชื่อแบรนด์ของตัวเองมากขึ้น

                  ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ ค่ายเพลง ช่องทีวีที่สร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่น เวิร์คพอยท์ ที่มีคอนเสิร์ตเดอะแรปเตอร์ เป็นต้น สุดท้ายโอเปอเรเตอร์ต่างๆ เช่น เน็กซ์ เรดิโอ ผู้ดำเนินธุรกิจวิทยุในอินสโตร์ก็รุกขึ้นมาสร้างคอนเสิร์ตเจาะกลุ่มผู้ชมยุค 90 เป็นต้น ทำให้รูปแบบของคอนเสิร์ตก็หลากหลายขึ้น การแข่งขันก็คึกคักขึ้น ส่วนคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ก็ยังมีอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นผู้จัดรายเดิมๆ ที่ครองตลาดอยู่ ในส่วนของบริษัทก็เดินหน้าจัดงานเอาต์ดอร์มิวสิกเฟสติวัลต่อเนื่อง โดยปีนี้มี 2 งาน ได้แก่ คอนเสิร์ตหน้าฝน “Singing in The Rain 4” : Let’s Say, Play Together วันที่ 27 กรกฎาคม 2562 ณ Umbrella City เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา และ “Season of Love Song ปีที่ 10” : A Decade of Happiness ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงปลายปี ณ เวเนโต้ สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี โดยเราเตรียมกองทัพศิลปิน พร้อมไฮไลท์พิเศษๆ มาเพื่อมอบความสุขให้กับท่านผู้ชมมากมาย

ท่านสามารถติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวของงาน Singing in The Rain ได้ที่ www.facebook.com/singingintherainfest/ และงาน Season of Love Song ที่ www.facebook.com/Seasonoflovesong/

เรียบเรียงและปรับปรุงข้อมูลจาก : นสพ.ประชาชาติธุรกิจ วันพฤหัสบดีที่ 18 – วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2562

ครบรอบ 12 ปี กรมการท่องเที่ยว ปลุกกระแสความสนุก คืนความสุขให้/นักท่องเที่ยว นำกองทัพศิลปินขึ้นเวที มันส์ หยด ติ๋ง

@StarUpdate

ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับฟรีคอนเสิร์ต “12 ปี กรมการท่องเที่ยว เที่ยวเต็มสุข สนุกไปด้วยกัน กับคอนเสิร์ตมันส์ หยด ติ๋ง” เนื่องในโอกาสครบรอบ 12 ปี สถาปนากรมการท่องเที่ยว จากกรมการท่องเที่ยว (Department Of Tourism) เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวในช่วง HIGH SEASON ปลายปีนี้ ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ สุขซู่…ไปกับกิจกรรมแบบเฮฮา สนุกซ่า…ไปกับศิลปินสุดมันส์หยดติ๋ง ในวันที่ 18 ตุลาคม 2557 ณ เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์

นอกจากไฮไลท์งานหลักของงานที่เป็นคอนเสิร์ตแล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมสนุกๆ สุดมันส์รองรับเหล่าคอดนตรีที่จะมาร่วมงานอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น ลานสุขซู่ สุขกันซู่ซ่า

ด้วยสระน้ำขนาดยักษ์ที่มาพร้อมกับเครื่องเล่นสนุกๆ กับกิจกรรมทางน้ำ ชุ่มฉ่ำ ซู่ซ่า รวมถึง ตลาดหยดติ๋ง ตลาดท่ามกลางสายฝน ที่รวบรวมของดีของเด็ดที่รับประกันว่าคนที่มาร่วมงานจะได้ของติดไม้ติดมือคุณภาพดีกลับบ้านไป สุขให้ซู่ซ่ากับสินค้าสุดเก๋ สุดชิค อาหารและเครื่องดื่มสุดแสนซู่ซ่า และฟรีคอนเสิร์ต

โดยที่งานดีๆ แบบนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ต้องขอขอบคุณกรมการท่องเที่ยวและบริษัทครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ เตรียมพบกับกิจกรรมดีๆ แบบนี้จากกรมการท่องเที่ยวในครั้งต่อๆ ไป

Credit : http://www.starupdate.com/?p=276657

CRAFT ‘N ROLL CARNIVAL

@Teerapat

รวมภาพจากกงาน Craft’ N Roll Carnival ที่จัดขึ้นที่ Mida Resort จังหวัดกาญจนบุรีโดยภายในงานนี้รวมคราฟท์เบียร์ไทยเอาไว้ถึง 18 แบรนด์ เป็นหนึ่งในงานที่รวบรวมเบียร์ไทยมากที่สุดงานหนึ่ง โดยมีค่าเข้า 1,500 บาท โดยทั้งงานสามารถดื่มได้ไม่อั้น! ส่วนค่าอาหารไม่รวมในค่าบัตร นอกจากอาหารและเบียร์แล้วยังมีศิลปินมาเล่นเพลงให้ฟังไปพร้อมๆ กับดื่มด่ำกับบรรยากาศเย็นๆ สบาย สร้างสรรค์โดยบริษัทครีเอท healthymanviagra.com อินเทลลิเจ้นซ์

Credit : http://www.teerapat.com/2015/12/craft-n-roll-2015-mida-resort-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%8D%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5/