Journey in the city เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เที่ยว 3 แพร่ง เดิน 4 ท่า ชม 6 หอศิลป์ ไหว้พระ 9 วัด เที่ยวกรุงเทพ Amazing ยิ่งกว่าเดิม ไปกับ ททท.

Journey in the city เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เที่ยว 3 แพร่ง เดิน 4 ท่า 

ชม 6 หอศิลป์ ไหว้พระ 9 วัด เที่ยวกรุงเทพ Amazing ยิ่งกว่าเดิม ไปกับ ททท.

 

Journey in the city และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชวนร่วมเดินทางเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวไทย ที่จะไปสัมผัส วิถีชีวิตชุมชน ธรรมชาติ ศิลปะ วัฒนธรรม รวมถึงอาหารอร่อยหลากหลายในประเทศไทย โดยถ่ายทอดประสบการณ์เดินทาง พลิกมุมมองด้านการท่องเที่ยวอย่างน่าสนใจในมุมมองใหม่ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านอยากเดินทางตามรอยเส้นทางการท่องเที่ยว และนั่นคือที่มาของแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยว รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ในชื่อ “Journey Rattanakosin” พร้อมหรือยังกับกิจกรรมสุดพิเศษที่ครีเอทอย่างสร้างสรรค์ เรียกว่าถ้าได้เที่ยวแล้วจะประทับใจไม่มีวันลืม กับกิจกรรมหลากหลาย เที่ยว 3 แพร่ง เดิน 4 ท่า ชม 6 หอศิลป์ ไหว้พระ 9 วัด ที่เอาใจสายบุญ สายอาร์ต สายกิน และสายบันเทิง 

เริ่มกันที่แรกเอาใจสายศิลป์ กับ ‘3 แพร่งแห่งแรงบันดาลใจ’ ตื่นตาตื่นใจไปกับ Street Art ในแหล่งชุมชนดั้งเดิมที่ซ่อนอยู่ใจกลางเมืองกรุง จุดสร้างสรรค์ผลงาน INSTALLATION ART 3 พยัคฆ์เจ้าถิ่น แหล่งรวมศิลปะ อารยธรรมของชุมชนย่านกรุงเก่า จิตรกรรมพระจันทร์ในคติจีนที่เป็นสื่อกลางของความคิดถึง จาก 3 ศิลปิน นำทีมโดย ดร. ไพโรจน์ พิทยเมธี อาจารย์ประจำสาขาวิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบที่ใช้เอกลักษณ์ไทย Thaitone สมทบด้วย Montemith และ ผศ.ภูษิต รัตนภานพ ที่มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานผ่านแรงบันดาลใจของชุมชน 3 แพร่ง (แพร่งสรรพศาสตร์, แพร่งนรา และ แพร่งภูธร)

สำหรับสายศิลป์อย่าเพิ่งไปไหน ต่อเนื่องด้วยอีกหนึ่งกิจกรรมอย่าง ‘เสพสุข สนุก ศิลป์’ ชวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปชมงานอาร์ต 6 หอศิลป์รอบเกาะรัตนโกสินทร์ พร้อมรับของที่ระลึก อย่างโปสการ์ดภาพวาดจากศิลปินที่น่าจับตามองอย่าง Shhhh (ชิน-ชินธิป เอกก้านตรง) ที่บอกเลยว่ามีจำนวนจำกัด โดยมีกติกาง่ายๆ เพียงแค่กด Check-in ณ 6 หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์ ผ่านทาง Line OA : @Journeyinthecity สามารถรับของที่ระลึก โปสการ์ด ‘เสพสุข สนุก ศิลป์’ ได้ที่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ และเมื่อสะสมครบทั้ง 6 แบบ นำมาเรียงต่อกันจะได้เป็นแผนที่เกาะรัตนโกสินทร์สุดน่ารัก สามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ – วันที่ 16 มีนาคม 2565 หรือจนกว่าจะหมด

มาต่อกันที่ฝั่งสายบันเทิง กับ เพลิดเพลิน เดิน 4 ท่า กับการเดินชมมหรสพจากอดีตสู่ปัจจุบัน ทั้ง 4 ท่า (ท่าเตียน, ท่าช้าง, ท่าพระจันทร์ และท่าพระอาทิตย์) พร้อมพบโชว์การแสดงมหรสพแห่งสยาม, Street Performance ละครใบ้ ละครหน้าขาว และดนตรี JAZZ ร่วมสมัย ที่ยกขบวนมาอย่างเต็มอิ่มจุใจ เท่านั้นยังไม่พอหากพูดถึงโซนรอบเกาะรัตนโกสินทร์

อีกหนึ่งอย่างที่อดนึกไม่ได้ก็คงจะเป็นวัดวา อาราม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยนับถือสืบต่อกันมา และเพื่อให้ครบทุกอรรถรสเที่ยวไทยอะเมสซิ่ง ก็ถึงคิวกิจกรรมสายบุญ สายมู ที่เรียกได้ว่าพิเศษมากๆ กับกิจกรรมแต่งไทย ไปทำบุญ พร้อมกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในธีมนุ่งไทยเที่ยว 9 วัด รอบเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่ออนุรักษ์ไทย ซึ่งจะประกอบไปด้วย วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร, วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรวิหาร, วัดชนะสงครามวรมหาวิหาร, วัดราชนัดดารามวรวิหาร, วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร, วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร, วัดมหรรณพารามวรวิหาร, วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร สำหรับกติกาการร่วมสนุก เพียงคุณถ่ายภาพในคอนเซป แต่งไทย…ไปทำบุญ คู่กับ 1 ใน 9 วัด จากนั้นโพสลง Social ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Instagram และตั้งค่าเป็นสาธารณะ พร้อมติด #แต่งไทยไปทำบุญ #JourneyRattanakosin เพียงเท่านี้ ก็สามารถลุ้นรับรางวัลบัตรที่พักโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาบนเกาะรัตนโกสินทร์ กันไปเลย และยังมีส่วนลดสำหรับการเช่าชุดไทยอีกด้วย โดยกิจกรรมทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในวันที่ 26-27 กุมภาพันธ์ และ วันที่ 5-6 มีนาคม 2565

 


กิจกรรม “แต่งไทย…ไปทำบุญ” ร่วมลุ้นรางวัลที่พักฟรี เพียงแต่เพื่อนๆแต่งไทย ไปทำบุญ พร้อมกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในธีมนุ่งไทยเที่ยว 9 วัด รอบเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่ออนุรักษ์ไทย ซึ่งจะประกอบไปด้วย วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร, วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรวิหาร, วัดชนะสงครามวรมหาวิหาร, วัดราชนัดดารามวรวิหาร, วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร, วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร, วัดมหรรณพารามวรวิหาร, วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

กติกาการร่วมสนุกง่ายๆตามนี้เลย
1.ถ่ายภาพในคอนเซป แต่งไทย…ไปทำบุญ คู่กับ 1 ใน 9 วัดด้านบน
2.โพสลง Social ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Instagram และตั้งค่าเป็นสาธารณะ
3.ติด #แต่งไทยไปทำบุญ #JourneyRattanakosin

ถ้าคุณรู้ว่าอยากเป็น AE ( Account Executive ) กับพวกเราชาว Create Intelligence.

คุณสมบัติ

  1. จบปริญญาตรีอายุ 23-30 ปี
  2. มีประสบการณ์จะพิจารณาเป็นพิเศษ
  3. มีความสามารถติดต่อประสานงานระหว่างลูกค้า
  4. มีความสามารถในการนำเสนองานเบื้องต้น

ส่งความเจ๋งของคุณมาที่ e-mail : createintelligence.hr@gmail.com
หรือโทรมาที่ 08 9811 1901

 

สร้างสรรค์โดย
Create Intelligence Co.,Ltd.
www.createintelligence.co.th

“TRANSMISSTION” คอนเสิร์ตเลเซอร์ยักษ์ไร้ขีดจำกัด อันดับ 1 ของโลก พร้อมกระหน่ำความมันส์ครั้งแรกที่ไทย หนึ่งเดียวในเอเชีย 10 มีนาคมนี้ !!

      15235562_1191822617537459_3987565093979665796_o-1 

บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด เปิดตัวมิวสิคแคมเปญครั้งยิ่งใหญ่ในประเทศไทย และครั้งแรกในเอเชีย ประกาศจับมือกับ United Music Events ผู้สร้างสรรค์ปรากฏการณ์ทางดนตรีจากกรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ก นำสุดยอดปรากฏการณ์ดนตรีระดับโลกมาสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นครั้งแรกด้วย TRANSMISSTION ในคอนเซปต์ “THE LOST ORACLE” ที่นำเสนอดนตรีสไตล์ Trance ซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของดนตรี EDM (Electronic Dance Music) โดยงานนี้ได้ชื่อว่าเป็นงานแสดงที่จัดเต็มเรื่องโปรดักส์ชั่นระดับโลกทั้งการแสดงวิชวล และเลเซอร์ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมพาผู้เข้าร่วมงานดำดิ่งสู่ความรู้สึกเหนือคำบรรยาย ระเบิดทุกโสตสัมผัสด้วยแสงเลเซอร์ทะลุทะลวงความมืดยามราตรีของเสียงเพลงกระหึ่ม และระทึกใจ โดยงาน TRANSMISSTION จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในวันที่ 10 มีนาคม 2560 ณ ฮอลล์ 100 ไบเทค บางนา ถือเป็นงานแรกที่ประเดิมฮอลล์ใหม่ ใหญ่ที่สุด และสูงที่สุดถึง 25 เมตร เปิดประสบการณ์ดนตรีชั้นนำระดับโลกอันไร้ขีดจำกัดอัดแน่นทุกโสตสัมผัสนี่คือ TRANSMISSION แบบจัดเต็ม!!!

 

15094888_1183072351745819_3184027920694305919_n

 

โดยคุณญาณกร อภิราชกมล กรรมการบริหาร บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจนซ์ ผู้จัดงานคอนเสิร์ต เผยว่า“TRANSMISSTION เป็นงานเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ตระการตา ซึ่งมีต้นกำเนิดจากกรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ก ที่รวมเอาดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ สเปเชียลเอฟเฟกต์ ไลฟ์แอ็คชั่น และเทคนิคการออกแบบภาพบนเวทีระดับโลกเข้าไว้ด้วยกัน โดยการสร้างสรรค์ประสบการณ์ทางดนตรีที่แปลกใหม่ ซึ่งแตกต่างจากงานดนตรีอื่นๆ ด้วยธีมงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผ่านเทคนิคการเล่าเรื่องด้วยเลเซอร์และแสงสี รวมทั้งระบบเสียง Funktion One ที่เยี่ยมยอด นอกจากนั้นในการเปิดตัวบรรดาดีเจ ยังมีการออกแบบซีนโชว์ขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งซีนของแต่ละคนจะผูกกับธีมหลักเพื่อสร้างสีสันให้กับงาน และพาผู้ชมไปสัมผัสประสบการณ์ดนตรีรูปแบบใหม่ ที่เต็มอิ่มทั้งภาพและเสียง ไม่เพียงเท่านั้นยังมี ดีเจระดับโลกอย่าง Ferry Corster , Aly Fola , Omnia , John O’Callaghan มาช่วยกำกับดูแลและออกไอเดียสำหรับงานในแต่ละปีอีกด้วย  โดยงาน Transmission ได้รับการยกย่องให้เป็นโชว์ดนตรีอินดอร์ที่ดีที่สุดงานหนึ่งของโลก ซึ่งจะมีแฟนๆ กว่า 15,000 คนจากทั่วโลกที่เดินทางไปร่วมงานถึงกรุงปราก และครั้งนี้ถือเป็นข่าวดีของแฟนๆ ดนตรีชาวไทยเพราะในเดือนมีนาคมของ ปี 2017 นี้ ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ ร่วมกับ Transmission ยกโชว์เต็มรูปแบบมาเปิดการแสดงที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของเมืองไทยและเอเชีย ที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ไปกับความอลังการบนเวทียักษ์ที่ดีไซน์เป็นพิเศษด้วยความสูงของเวที กว่า 23 เมตร เพื่อรองรับเทคนิคพิเศษของภาพและเสียง เลเซอร์โชว์ ด้วยจอ LED-screen รวมทั้งงาน กว่า 300 ตารางเมตร และใช้เลเซอร์ 18 ตัว ไปจนถึงดนตรีสุดมันส์ ในคอนเซปต์ “The Lost Oracle” พร้อมด้วยเหล่าดีเจระดับโลก ที่จะพาคุณไปเปิดประสบการณ์ดนตรีสุดพิเศษในเดือนมีนาคมนี้ ที่ BITEC บางนา ”

 

14481753_1135395339846854_6888754257805501639_o

 

สัมผัสปรากฏการณ์ดนตรีรูปแบบระดับโลก TRANSMISSTION ตอน “THE LOST ORACLE” ในวันที่ 10 มีนาคม 2560 ณ ฮอลล์ 100 ไบเทค บางนา ผู้สนใจสามารถติดตามปรากฎการณ์ดนตรีอันไร้ขีดจำกัด ได้ที่ www.facebook.com/Transmissionfestivalasia เริ่มจำหน่ายบัตร Tier 1 ในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ ทาง Ticket Melon โดยแบ่งเป็น 2 ราคา บัตร GA ราคา 2,800 บาท และบัตร VIP ราคา 3,500 บาท

           

 

เทศกาลดนตรี “TRANSMISSION” ระเบิดความมันส์ ยกกองทัพแสงเลเซอร์ตระการตา ครั้งแรกในเอเชีย 10 มีนาคมนี้ !!

 

13728960_1078287118891010_942040869415595698_n

            TRANSMISSION งานแสดงดนตรีสไตล์ Trance ระดับโลก กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ชื่นชอบดนตรีแนว EDM (Electronic Dance Music) ซึ่งมีต้นกำเนิดจากกรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ก โดยงาน Transmission ได้รับการยกย่องให้เป็นโชว์ดนตรีอินดอร์ที่ดีที่สุดงานหนึ่งของโลก ที่รวมเอาดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ สเปเชียลเอฟเฟกต์ ไลฟ์แอ็คชั่น และเทคนิคการออกแบบภาพบนเวทีระดับโลกเข้าไว้ด้วยกัน เป็นการสร้างสรรค์ประสบการณ์ทางดนตรีที่แปลกใหม่ ด้วยธีมงานที่มีเอกลักษณ์ ในคอนเซปต์ “THE LOST ORACLE” ถือเป็นงานแสดงดนตรีที่จัดเต็มเรื่องโปรดักส์ชั่นระดับโลก ที่จะพาผู้เข้าร่วมงานดำดิ่งสู่ความรู้สึกอันเหนือคำบรรยาย ผ่านเทคนิคการเล่าเรื่องด้วยแสงสีและเลเซอร์ 18 ตัว ที่มี 10 ตัว เป็น 23w Full color lasers และ 8 ตัว เป็น 8w Green lasers รวมทั้งส่งตรงระบบเสียงที่ดีที่สุดจากประเทศอังกฤษ Funktion One พร้อมให้คุณนับถอยหลังสู่ประสบการณ์ที่ไม่อาจลืม ไม่เพียงเท่านั้นยังมี ดีเจระดับโลกอย่าง Markus Schulz เป็นผู้แต่งเพลงสำหรับคอนเซปต์ THE LOST ORACLE ในครั้งนี้ และเหล่าบรรดาดีเจระดับต้นๆ ของโลก อาทิ O’Callaghan, Ferry Corster , Aly Fila , Omnia ที่จะมาร่วมเปิดประสบการณ์ดนตรีชั้นนำอันไร้ขีดจำกัดอัดแน่นทุกโสตสัมผัส

14876641_10154146293982804_5412039234460736974_o

โดยครั้งนี้ ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ ร่วมกับ Transmission ยกโชว์เต็มรูปแบบมาเปิดการแสดงที่กรุงเทพมหานคร ถือเป็นงานแรกที่ประเดิมฮอลล์ใหม่ของไบเทค ซึ่งมีความสูงที่สุดถึง 25 เมตร นับเป็นครั้งแรกของเมืองไทยและเอเชีย ที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ไปกับความอลังการบนเวทียักษ์ที่ดีไซน์เป็นพิเศษด้วยความสูงของเวที กว่า 23 เมตร เพื่อรองรับเทคนิคพิเศษของภาพและเสียง เลเซอร์โชว์ ด้วยจอ LED-screen บนพื้นที่รวม กว่า 300 ตารางเมตร เรียกได้ว่าเต็มอิ่มทั้งภาพและเสียง แล้วพบกัน ในวันที่ 10 มีนาคม 2560 ณ ฮอลล์ 100 ไบเทค บางนา

ซื้อบัตรได้แล้ว จำหน่ายบัตร Tier 1 ทาง Ticket Melon โดยแบ่งเป็น 2 ราคา บัตร GA ราคา 2,800 บาท และบัตร VIP ราคา 3,500 บาท ผู้สนใจสามารถติดตามปรากฎการณ์ดนตรีอันไร้ขีดจำกัดได้ที่ www.facebook.com/Transmissionfestivalasia

 

ผลการปฐมนิเทศรับฟังความคิดเห็น ชาวเถินเห็นด้วย โครงการประตูระบายน้ำแม่น้ำวังบ้านเหล่า อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง

ภายหลังการปฐมนิเทศโครงการศึกษาความเหมาะสมและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการประตูระบายน้ำแม่น้ำวังบ้านเหล่า อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ณ หอประชุม โรงเรียนล้อมแรดวิทยา ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง โดยสำนักบริหารโครงการ กรมชลประทาน เมื่อวันอังคารที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมี นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานการประชุม นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรัฒน์ รองอธิบดี ฝ่ายวิชาการกรมชลประทาน เข้าร่วมการประชุม พร้อมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการ 193 คน ประกอบด้วย หน่วยงานระดับจังหวัด หน่วยงานในสังกัดกรมชลประทาน หน่วยงานระดับอําเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นําชุมชนรวมถึงประชาชนในพื้นที่ สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล สถานศาสนา ตัวแทนองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังการปฐมนิเทศ และเสนอแนะในกระบวนการรับฟังความคิดเห็น พร้อมร่วมตอบแบบสอบถาม จำนวน 130 ชุด

ซึ่งมีประเด็นน่าสนใจจากผลตอบแบบสอบถาม โดยเฉพาะการสอบถามความคิดเห็นด้านวิศวกรรม ที่ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ถึงร้อยละ 98.46 เห็นว่าที่ตั้งอาคารบังคับน้ำ ควรตั้งตามตำแหน่งที่กรมชลประทานศึกษาไว้เดิม คือ หมู่ที่5 บ้านเหล่า ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน เช่นเดียวกับร้อยละ 93.85 เห็นว่าทางเลือกที่ตั้งหัวงานควรตั้งในลำน้ำแม่น้ำวัง

ด้านความเห็นทางเลือกรูปแบบอาคารที่เหมาะสม ส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 96.92 มีความเห็นว่าควรเป็นประตูระบายน้ำ ส่วนการสอบถามการพิจารณาทางเลือกระบบชลประทาน ครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวนร้อยละ 50.7 เห็นว่าควรเป็นระบบท่อส่งน้ำและคลองส่งน้ำโดยแรงโน้มถ่วงร่วมกัน โดยให้เหตุผลว่า แต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันระบบดังกล่าวจะได้ปรับตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ รองลงมา ร้อยละ 33.08 เห็นว่าเป็นระบบคลองส่งน้ำโดยแรงโน้มถ่วง และร้อยละ 13.85 มีความเห็นเป็นระบบท่อส่งน้ำโดยแรงโน้มถ่วง

โดยหลังจากนี้ กรมชลประทาน มอบให้คณะที่ปรึกษา นำข้อมูลจากแบบสอบถาม การรับฟังความคิดเห็น

ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ ไปประกอบในการศึกษาโครงการ เพื่อจะนำมาเสนอในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของเวทีประชุมกลุ่มย่อย ช่วงประมาณเดือนมีนาคม 2565 ต่อไป

ซึ่งผู้มีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถ ติดต่อ สำนักบริหารโครงการ ส่วน

วางโครงการที่ 1 กรมชลประทาน เลขที่ 811 ถนนสามเสน แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 โทรศัพท์ 0 2241 3354 หรือสายด่วน 09 2538 4676 และทางอีเมลล์ [email protected] พร้อมติดตามข้อมูลข่าสารโครงการได้ทาง Line Official : @wangbanlao

Tattoo Color ชวนคุณมาร้องเพลงรัก ในเทศกาลดนตรีฤดูรักผลิบาน Season Of Love Song Music Festival 7

 

อีกครั้งกับเทศกาลดนตรีสุดโรแมนติก Season Of Love Song Music Festival กลับมาครั้งนี้ อยากเชิญชวนให้ทุกคนไปสัมผัสบรรยากาศแสนโรแมนติก ฟังเพลงรักท่ามกลางลมหนาวในเดือนแห่งความรัก วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 ณ เวเนโต้ อ.สวนผึ้ง ราชบุรี เป็นเทศกาลดนตรีที่จะสร้างความสุข และรอยยิ้มให้กับทุกคน โดยมี 15 ศิลปิน คุณภาพ ที่ขนเพลงรักมาขับกล่อม ให้กับทุกคน นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทุกคนได้ร่วมสนุก รับประกันความคุ้มค่าตลอดคืน

15137528_1241614955899233_7697266606610724083_o

และครั้งนี้ ศิลปินหนุ่มอย่างวง Tattoo Color ได้ออกมาเชิญชวนให้ทุกคนไปร่วมร้องเพลงไปกับพวกเค้าทั้ง 4 คน หนุ่มดิม ในฐานะนักร้องนำ ได้เปิดใจว่า “ พวกเราทั้ง 4 คน มีโอกาสได้ขึ้นร้องเพลงในเทศกาลดนตรี Season Of Love Song Music Festival เกือบจะทุกปี และปีนี้เป็นอีกปีที่มีโอกาสได้ร่วมสร้างความสุข ยังจำภาพบรรยากาศที่ผ่านมาได้ว่าทุกคนที่มาร่วมงานต่างยิ้ม หัวเราะ ร้องเพลงไปด้วยกัน เป็นภาพความทรงจำที่ประทับใจอย่างยิ่ง สำหรับใครที่เคยไปแล้วคงได้เห็นภาพบรรยากาศที่ประทับใจ แต่สำหรับใครที่ยังไม่ได้ไปอยากเชิญชวนให้ได้ร่วมสร้างความทรงจำดีๆ แล้วเจอกันครับ!! ” นอกจากนี้ยังมี ศิลปินอีกมากมาย อาทิ The Dai Dai, Somkiat, Scrubb, Singto Numchok, Season Five Ft. Ink Worramon, Aof Pongsak, Palmy, Moderndog, Klear, Stamp Ft. Triumph Kingdom, Mild, Lipta และในปีนี้ได้มีการเปลี่ยนลานจัดงานเป็นลานใหม่ที่บอกได้เลยว่าสวยกว่าเดิม ล้อมรอบด้วยวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามแบบพาโนรามา 360 องศากันเลยทีเดียว

14500579_1192343937493002_898149103369342488_o

ห้ามพลาดกับเทศกาลดนตรี Season of Love Song Music Festival 7 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อบัตรได้แล้ววันนี้ที่ thaiticketmajor ทุกสาขา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่www.facebook.com/seasonoflovesong

กรมชลฯ เสนอแผนปรับปรุงระบบส่งน้ำโครงการฯโดมน้อย จ.อุบลราชธานี เพิ่มประสิทธิภาพการจัดน้ำเพื่อภาคเกษตรคลุมพื้นที่ 1.8 แสนไร่

กรมชลประทาน ลงพื้นที่ติดตาม โครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำโดมน้อย”  จ.อุบลราชธานี หลังเปิดใช้งานกว่า 40 ปี พบมีปัญหาด้านประสิทธิภาพการส่งน้ำ ความต้องการใช้น้ำชลประทานที่เพิ่มขึ้น เร่งระดมความคิดเห็นทุกภาคส่วน รวบรวมข้อเสนอความคิดเห็นสู่แผนพัฒนาโครงการที่มีความทันสมัยตอบรับการเปลี่ยนแปลง

นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ กรมชลประทาน นำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่  “โครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำโดมน้อย” ตั้งอยู่ที่ หมู่ 5 บ้านโนนจันทร์ ต. โนนกลาง อ. พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานีซึ่งเป็นโครงการสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำ ประกอบด้วยโรงสูบน้ำติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 10 เครื่อง คลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้ายระยะทาง 65.6 กิโลเมตร ฝั่งขวา 25 กิโลเมตร รวมทั้งคลองส่งน้ำสายซอยและแยกซอยรวมกัน 193 กิโลเมตร ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2527 และใช้งานมากว่า 40 ปี ทำให้ประสิทธิภาพการส่งน้ำลดลง ไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ชลประทาน 183,044 ไร่ กรมชลฯ ได้ เล็งเห็นความสำคัญในการปรับปรุงโครงการ ให้สามารถดำเนินการได้เต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน และเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ทั้งเรื่องการอุปโภค บริโภค และการสร้างความมั่นคงน้ำภาคการผลิตทั้งเกษตรและอุตสาหกรรม รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำและระบบชลประทาน

ทั้งนี้กรมชลฯได้ ติดตามความคืบหน้าในการจัดทำแผนพัฒนาโครงการ โดยได้มีการจัดประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการศึกษาความเหมาะสมการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำโดมน้อย จ.อุบลราชธานี โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เพื่อให้ระดมความคิดเห็นและสร้างความเข้าใจในแนวทางปรับปรุงระบบส่งน้ำ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรและประชาชน ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ มีชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งจะมีการรวบรวมไปสู่การปรับปรุงแผนพัฒนาโครงการที่สมบูรณ์

“จากการหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่โครงการและกลุ่มเกษตรกร พบว่าในพื้นที่ดังกล่าว สภาพปัจจุบันประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่อทำการเกษตร มีน้ำใช้ไม่ทั่วถึง ซึ่งในอนาคตหากไม่มีการแก้ไข อาจทำให้เกิดปัญหาการแย่งชิงน้ำกับกลุ่มผู้ใช้น้ำในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทานตามมา ดังนั้นกรมชลประทานจึงทำการศึกษาแนวทางปรับปรุงโครงการ เพื่อให้โครงการมีการส่งน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการน้ำ ส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำอย่างมีส่วนร่วม  และครอบคลุมพื้นที่อย่างทั่วถึง

สำหรับแผนการปรับปรุงโครงการศึกษาความเหมาะสมการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำโดมน้อย เป็นการงานปรับปรุงซ่อมแซมองค์ประกอบโครงการฯให้ใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์เพื่อลดการสูญเสีย ประกอบด้วย การปรับปรุงซ่อมแซมดาดคอนกรีตคลอง LMC ความยาว 6.96 กิโลเมตร   ซ่อมแซมดาดคอนกรีตคลอง RMC ความยาว 6.96 กิโลเมตร  ปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ ที่เป็นอุปสรรคในการส่งน้ำ การรื้อถอนอาคาร ของคลองฝั่งขวา และมีการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารของคลองส่งน้ำฝั่งซ้าย ปรับปรุงอาคารระบายน้ำล้น งานปรับปรุงการแก้ปัญหาตะกอนทราย และปัญหาวัชพืชในคลองส่งน้ำ ตลอดคลองสายใหญ่

ทั้งนี้ยังมีงานเพิ่มประสิทธิภาพระบบชลประทานเพิ่มระบบส่งน้ำเพิ่มเติม เพื่อเสริมระบบส่งน้ำเดิม ได้แก่ การสร้างอาคารรับน้ำอาศัยแรงโน้มถ่วงจากอ่างเก็บน้ำสิรินธร ไปยังพื้นที่ปลายคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวา พร้อมทั้งมีการก่อสร้างสถานีสูบน้ำแห่งใหม่ ขนาด 3.1 ล้านลูกบาศก์ต่อวินาที  และสถานีสูบน้ำเพิ่มเติมบริเวณหัวงาน 2.25  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่บริเวณหัวงาน  ขณะเดียวกันยังได้มีการปรับปรุงขยายความกว้างของคลองสายใหญ่ฝั่งขวา ความยาว 8.10 กิโลเมตร และปรับปรุงขยายคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย 4 ช่วง ความยาวรวม 10.20 กม. เป็นต้น 

เพื่อให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโดมน้อยยกระดับขีดความสามารถในการบริหารจัดการน้ำมากยิ่งขึ้น เพื่อกระจายน้ำไปยังสายหลักและสายย่อย  โดยการติดตั้งระบบเครื่องตรวจวัดเพื่อจัดเก็บข้อมูลของโครงการ อาทิ วางแผนในการบริหารน้ำตั้งแต่แหล่งน้ำต้นทุน ,การคาดการณ์ความต้องการน้ำรายเดือน และการกำหนดแผนการส่งน้ำการส่งเสริมพัฒนาบุคลากรโครงการ เป็นต้น การวางระบบโทรมาตรเพื่อการบริหารจัดการน้ำในการติดตามผลการส่งน้ำเพื่อให้บริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่เกษตรกร การพัฒนาองค์กรผู้ใช้น้ำเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มผู้ใช้น้ำและเพิ่มขีดความสามารถให้กับเกษตรกรและส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มผู้ใช้น้ำและสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของระบบชลประทาน การส่งเสริมการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตด้านเกษตรกรรมให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน และจัดทำฐานข้อมูลโครงการเพื่อใช้ในการติดตามการส่งน้ำและผลการเพาะปลูก เช่น การทำแผนที่พื้นที่เพาะปลูกในรูปของระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (Geographic Information System, GIS) เพื่อใช้เป็นข้อมูลติดตามในการปรับแผนการส่งน้ำให้สอดคล้องกับผลเพาะปลูก และเผยแพร่ข้อมูลแผนที่พื้นที่เพาะปลูกที่เหมาะสม (Agri-Map) เพื่อให้เกษตรกรแต่ละแปลงเพาะปลูกพืชที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตามการดำเนินโครงการดังกล่าวจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง จำนวน 3 ปี วงเงินค่าก่อสร้างและปรับปรุงโครงการรวม 570.53 ล้านบาท ซึ่งทำให้เกิดผลประโยชน์ในพื้นที่โครงการได้แก่

1) เพิ่มพื้นที่รับประโยชน์ จากระบบชลประทานจากเดิมที่ส่งน้ำได้ 131,035 ไร่ เป็น 176,010 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ในเขตชลประทาน 158,919 ไร่ พื้นที่ชลประทานสมทบ (พื้นที่นอกเขตชลประทาน) 17,091ไร่

2) เพิ่มความมั่นคงด้านน้ำต้นทุน ในพื้นที่โครงการจากการก่อสร้างสถานีสูบน้ำแห่งใหม่ และอาคารผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำสิรินธร

3) เพิ่มประสิทธิภาพระบบชลประทาน จากการปรับปรุงอาคารชลศาสตร์และคลองชลประทาน

4) เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำ จากการเสนอติดตั้งระบบโทรมาตร การจัดรอบเวรในการส่งน้ำ และการจัดองค์กรใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำและพื้นที่รับประโยชน์โครงการที่เพิ่มขึ้น

5) เสนอแผนพัฒนาแหล่งน้ำทางเลือกในพื้นที่ สบ.4 บริเวณที่ไม่สามารถรับน้ำจากระบบชลประทาน

เมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งหมดผลประโยชน์ทางการเกษตร เมื่อมีโครงการทำให้มีน้ำที่ใช้ได้ในการเกษตรและปริมาณน้ำมีเสถียรภาพ ทำให้เกิดผลประโยชน์ส่วนเพิ่มทางการเกษตร เป็นเงิน 9,325.21 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน ณ อัตราคิดลดร้อยละ 6.94 เท่ากับ 1,855.24 ล้านบาท

Men @Work

ญาณกร อภิราชกมล ชายคนนี้คือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของมิวสิคเฟสติวัลชื่อดังที่จัดมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน อาทิ Samed in Love และ Season of Love Song

ห้ามพลาด คอนเสิร์ต มันส์ หยด ติ๋ง

@kapook!

ฉลองครบ 12 ปี กรมการท่องเที่ยว เอาใจคอเพลงที่ชื่นชอบคอนเสิร์ตแบบสุดมันส์ กับคอนเสิร์ต มันส์ หยด ติ๋ง แค่ชื่อก็ไม่ธรรมดาเพราะครั้งนี้ขนความมันส์มาในคอนเซ็ปต์ สนุกสุดเหวี่ยงให้เต็มที่ ไม่ว่าที่ไหน ฤดูอะไร เราก็เที่ยวให้มีความสุขได้ สุขซู่ไปกับกิจกรรมแบบเฮฮา สนุกซ่าไปกับศิลปินสุดมันส์หยดติ๋ง ที่เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ โดยมีครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์เป็นส่วนร่วมในการส้รางสรรค์

Credit : http://musicstation.kapook.com/view99404.html