
CI ShowBiz ภายใต้บริษัท “ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์” หนึ่งในผู้นำธุรกิจโชว์บิซ ประกาศความพร้อมรุกตลาดโชว์บิซครึ่งปีหลัง ลุยจัด 6 งานใหญ่ ตั้งเป้าหมายสำคัญคือ การยกระดับคุณภาพงานทั้งในด้านประสบการณ์ของผู้ชม และประสิทธิภาพการบริหารจัดการของทีมงาน พร้อมวางแผนต่อยอดงานให้มากขึ้นทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ตั้งเป้าสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและเติบโตในระดับภูมิภาค เตรียมพัฒนาไอเดียใหม่ๆ คิดต่างอย่างสร้างสรรค์ และจับมือกับพันธมิตรต่างประเทศในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจของ CI ShowBiz ไปสู่เวทีระดับสากลอย่างยั่งยืน
นายญาณกร อภิราชกมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด หรือ CI ShowBiz ผู้จัดโชว์บิซ คอนเสิร์ต เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้พัฒนาขีดความสามารถทางธุรกิจในหลายด้าน เน้นธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญและสามารถต่อยอดจากธุรกิจเดิมได้ โดยในปี 2568 เป็นปีที่มีความท้าทายเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงจากหลากหลายปัจจัย ทำให้ตลาดโชว์บิซกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อาทิ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค แนวโน้มตลาดที่เติบโตขึ้น การเติบโตของกลุ่ม Niche Market (ตลาดเฉพาะกลุ่ม) เช่น EDM, K-POP, J-POP, C-POP อีกทั้งผู้จัดและโปรโมเตอร์หน้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น ทำให้การแข่งขันรุนแรงมากขึ้น ในวันที่ต้องเผชิญกับความท้าทายทางธุรกิจ ภาวะเงินเฟ้อและต้นทุนที่สูงขึ้น กำลังซื้อลดลงจากภาวะเศรษฐกิจ กลยุทธ์สำคัญที่ CI ShowBiz ใช้ในการรับมือ คือ เพิ่มจำนวนและความหลากหลายของงาน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะทางครอบคลุมกลุ่มอายุและแนวความชอบที่หลากหลาย การ “แม่น” กับความต้องการของผู้บริโภคการและการสร้างกระแสเข้าถึงผู้ซื้อจริง โดยมุ่งสร้างกระแสในโซเชียลมีเดียควบคู่กับการวางกลยุทธ์ราคาและประสบการณ์ลูกค้า เพิ่มมูลค่าในสิ่งที่ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่ากับการจ่าย การขยายแบรนด์ให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพในการเพิ่มรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ไม่ใช่เพียงแค่ปริมาณงานแต่ต้องวางระบบจัดการที่ดี
โดย CI ShowBiz กำลังจะมีโปรเจกต์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลัง คือกลุ่มธุรกิจโชว์บิซ เน้นเอาท์ดอร์ มิวสิค เฟสติวัล (Outdoor Music Festival) โดยจัดงานต่อเนื่องจนนับเป็นผู้นำในอันดับต้นๆ อาทิ Samed in Love 2025 และ Thunder Rock Festival 2 และปิดท้ายปลายปีด้วย Season of Love Song 15 และไฮไลต์สำคัญ คือ 2 คอนเสิร์ตใหญ่ ได้แก่ BOYdPOD Our Songs Together Concert คอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 16 ปีของ บอย โกสิยพงษ์ และ ป๊อด ธนชัย อุชชิน และคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 20 ปี ของค่ายเพลงเบเกอรี่ มิวสิค นำทีมโดยบอย โกสิยพงษ์, สุกี้ กมล สุโกศล แคลป์ และสมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ พร้อมนักร้องในสังกัดนำเสนอผลงานเพลงมากกว่า 100 เพลง บนเวที B.DAY Forever Concert และอีกงานในปีนี้ คือ Summer Sonic Bangkok 2025 โดยมี CI ShowBiz ทำหน้าที่บริหารจัดการในฐานะ Local Promoter ทั้ง 6 งานใหญ่ในครึ่งปีนี้


หนึ่งในหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อน CI ShowBiz คือการบริหารจัดการทีมงาน ทั้งในแง่ของการดึงศักยภาพและสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานร่วมกัน เนื่องจากธุรกิจโชว์บิซ ต้องขับเคลื่อนด้วย “คน” ในทุกมิติที่อยู่เบื้องหลังทุกโชว์ ทุกปรากฏการณ์ที่สร้างขึ้น ต้องใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์และการทำงานเป็นทีม สิ่งสำคัญคือการลดช่องว่างระหว่างบุคลากรในองค์กรที่มีคนหลากหลายรุ่น หลากหลายความคิด เพื่อแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจนในการสร้างความเข้าใจร่วมและความรู้สึกเป็นทีมเดียวกัน เพื่อให้บุคลากรทุกคนเติบโตไปพร้อมๆ กับองค์กร
แผนกลยุทธ์หลังจากนี้ CI ShowBiz มุ่งเน้นการต่อยอดธุรกิจและพัฒนาแบรนด์สู่ระดับภูมิภาค ภายใต้หลักการเติบโตอย่างมีเป้าหมายในแต่ละขั้น ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพงาน โดยมีการวางแผนและโครงสร้างทีมงานพร้อมรองรับ หนึ่งในเป้าหมายระยะกลางของ CI ShowBiz คือการสร้าง “แบรนด์หรือ IP งาน” ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถเติบโตและต่อยอดได้ในระดับภูมิภาค ซึ่งจะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับแบรนด์ในระยะยาว พร้อมเปิดรับโอกาสใหม่ๆ จากพันธมิตรในต่างประเทศ โดยนำเข้าโปรเจกต์ระดับภูมิภาคหรือระดับโลกที่สอดคล้องกับความสนใจของผู้ชมในไทย ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานของงานในประเทศ และเปิดโอกาสสู่ตลาดใหม่ เมื่อพบโอกาสที่เหมาะสม ทั้งด้านคอนเทนต์ พาร์ทเนอร์ หรือช่องทางตลาด ก็พร้อมจะเดินหน้าอย่างเต็มที่ทันที
นายญาณกร กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมโชว์บิซ เรายังคงได้เห็นศิลปินยอดนิยมในปัจจุบันทำการแสดงอยู่ควบคู่กับศิลปินหน้าใหม่ที่เกิดขึ้นจากแพลตฟอร์มดิจิทัลและชุมชนแฟนคลับเฉพาะทาง ตลาดจะยิ่งหลากหลายขึ้น และเน้นการจับกลุ่มแฟนเฉพาะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเทคโนโลยีจะเป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโชว์อนาคตของโชว์บิซ ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น และคาดหวังมากขึ้น องค์กรที่เข้าใจจุดนี้และสามารถส่งมอบได้จะได้เปรียบทางการแข่งขัน CI ShowBiz พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนั้น โดยเชื่อว่าความสำเร็จจะเกิดจากการปรับตัวกับเทคโนโลยี และพัฒนาแนวคิดใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้ชมได้อย่างทันท่วงที

สำหรับแผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์ MAI ของ CI ShowBiz นั้น เคยมีการวางแผนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ MAI ก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 โดยได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมไปในระดับหนึ่งแล้ว แต่เมื่อเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แผนดังกล่าวจึงถูก “พักไว้” เพื่อรอจังหวะที่เหมาะสม ปัจจุบัน CI ShowBiz ยังไม่ได้โฟกัสเรื่องการเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นหลัก เป้าหมายในระยะนี้ คือการสร้างรากฐานให้แข็งแรง ทั้งในด้านการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน การพัฒนาผลิตภัณฑ์และโชว์ที่ตอบโจทย์ตลาด การเสริมศักยภาพทีมงานให้สามารถรองรับการเติบโตระยะยาว เมื่อ CI ShowBiz เติบโตถึงจุดที่แข็งแรงในทุกมิติ การเข้าตลาดหลักทรัพย์อาจกลับมาเป็นทางเลือกในการขยายธุรกิจอีกครั้ง แต่จะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจ โอกาสทางธุรกิจ และความพร้อมขององค์กรในเวลานั้น